ไปไหนดี ไปไหนดี ติ๊กต๊อกๆๆ จังหวัดเลยก็อยากไป อยากไปเชียงคาน ภูกระดึกก๋อยากไป แต่เห็นเพื่อนในเฟสโพสว่าบรรยากาศที่ภูกระดึงมีหมอกเยอะ เดินไปจุดชมวิวไม่ได้ งั้นไม่ไปล่ะ วิวไม่สวยก็ไม่อยากไป
แฟนบอกว่าลองไปนั่งหาข้อมูลดู ว่าอยากไปไหน จัดการโล้ด... เรื่องเที่ยวในไทยพี่ถนัดอยู่แล้ว อิอิ
ไปนี่แล้วกันนะ สังขละบุรี ด่ายเจดีย์สามองค์ สะพานมอญ และชมวัดใต้น้ำ
วันพฤหัสนี้มีเวลาหาข้อมูลแบบจัดเต็ม สิ่งแรกที่ต้องหา คือ เรื่องการเดินทาง ที่พัก รถเช่า และร้านอาหารอิสลาม บร่าาาๆๆๆๆ
สมัยนี้ง่ายหน่อย มีกูเกิ้ล มีข้อมูลจากล็อค ...เสิร์ชหาก็มีทุกอย่าง พี่กูรู้ทุกอย่าง
อ่านจากบล็อค หลายๆ บล็อคเรื่องการเดินทางก็โอเค มีรถทัวร์ รถตู้ ไปรถตู้ดีกว่าเร็วกว่า...
เรื่องที่พักก็เสิร์ชหาแค่ชื่อและเบอร์โทร ได้มาเกือบยี่สิบที่ เคยอ่านในบล็อคเค้าว่าสามประสบสวย ถ่ายรูปลงมาเห็นสะพานมอญ แต่ก็เต็มแล้ว โรงแรมใหญ่ๆ เต็มหมดเลย โทรไปตั้งเกือบสิบที่ สุดท้ายได้ที่เบอร์มิส อินน์ (เบอร์โทร 034-595556 มือถือ 086-168-1801 ) แบบบ้านพักเต็ม ห้องแอร์ก็เต็ม เหลือห้องพัดลมห้องสุดท้าย พัดลมก็พัดลม ตอนนี้คิดแต่ว่า...ขอให้ได้ที่พักไว้ก่อน อากาศคงไม่ร้อนเพราะอยู่ติดริมแม่น้ำ พอคุยราคา บอกเลขบัญชีเรียบร้อย ก็เลยสอบถามรถเช่า ประมาณขอคำแนะนำหน่อยนะ อิอิ เค้าก็เลยบอกว่าเดี๋ยวผมล็อครถไว้ให้ แล้วค่อยมาจ่ายที่นี่แล้วกัน โชคดีมากๆ มีรถให้ขับแล้ว จะได้ไม่เบื่อแล้ว แย่ๆๆ
เรื่องต่อไปก็หาร้านอาหารอิสลาม รู้แต่ว่าที่นี่มีมัสยิด ร้านอิสลามก็เลยไม่ต้องห่วงเท่าไร พอเอาเข้าจริงในตลาดมีร้านอิสลามเยอะคะ
จองที่พักเรียบร้อย โอนเงินเรียบร้อย โทรไปคอนเฟร์มเรียบร้อย หายห่วงไปหนึ่งเปาะ
วันศุกร์ลางานหนึ่งวัน ไม่รู้นะไปไหนดี แฟนเลยชวนไปฟังคุตุบะห์วันศุกร์ที่ศูนย์กลางอิสลาม ละหมาดเสร็จก็ซื้อของกินกลับไปกินบ้าน ได้สะเดาน้ำปลาหวานมาด้วย อยากกินมาหลายวันล่ะ
พอสายๆ แฟนก็พาไปเที่ยวศูนย์หนังสือจุฬา และไปเดินเยาวราช เค้ามีงานเราก็ไปเดินดูอ่ะ ศาสนาใครก็ศาสนามัน ตรุษจีนของคนไทยเชื้อสายจีน เราแค่ไปชม ให้เห็นว่าเค้ามีอะไร เปิดหูเปิดตาดูก็ไม่เสียหายอะไรเนอะ เก็บภาพบรรยากาศรอบๆ มาให้ชมคะ
พอค่ำๆ ก็กลับมาจัดกระเป๋า พร้อมเดินทางคะ วันเดินทางออกจากบ้านตีสี่ ถึงสายใต้สี่ครึ่ง เอารถไปจอดสายใต้ แล้วนั่งรถตู้ไป ได้รถเที่ยวแรกตีห้าครึ่ง ซื้อตั๋วเสร็จแล้ววิ่งขึ้นไปละหมาดที่ห้องละหมาด อยู่ใกล้กันสะดวกมากๆ ไปถึงบขส.กาญจนบุรีประมาณ 7.50 น. ลงจากรถแล้วเดินไปซื้อตั๋วรถตู้ไปสังขบุรีเลย ได้ตั๋วรถตู้ที่จะออกพอดีเลยคะ สองใบสุดท้ายนั่งหลังสุด แรกๆ ก็โอเคอยู่นะ พอขับขึ้นเขาเท่านั้นแระ พี่เมารถเลยคร้าาาา
คนละ 100 บาทเองคะ
ถึงสังขละบุรี ประมาณ 11.15 น. โทรเข้าที่พักมีผู้หญิงรับสาย เค้าบอกให้เรานั่งวินมอร์ไซค์ไป แต่แอ๊ะ!! วันก่อนนัดกับผู้ชายอีกคนเค้าบอกจะมารับเรานี่หน่าาา พอสักพักเค้าก็โทรมา บอกว่าเดี๋ยวจะมารับตามสัญญา น่ารัดฝุดๆ สบายใจหน่อย ให้แฟนไปกับเค้าพร้อมกระเป๋า ส่วนเราก็นั่งมอร์ไซค์ตามไป ค่ามอร์ไซค์ 20 บาท ห้องพักทำความสะอาดเสร็จพอดี เข้าได้เลย เอาของไปเก็บ จัดการเรื่องรถ ค่าเช่า 250 บาท ต่อวัน โดยวางบัตรประชาชนไว้ออกไปหาข้าวกินก่อนแล้วกัน เห็นป้ายมัสยิด วนไปดูจะอยู่ถนนอีกฝั่งตรงกันข้ามตลาด แต่ไม่มีร้านข้าวเลย พอวนกลับมาที่ตลาดเท่านั้นแระ มีตรึมเลยคะ เราก็สั่งอาหารตามสั่ง กระเพาะเนื้อ รสชาติถูกปากดีคะ ยังไม่กล้ากินแกงพม่าอ่ะ
เดินถ่ายรูปรอบๆ ที่นี่มีขายเครื่องเงิน หินสี และกล้วยไม้ป่า เคยมาครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนของจะเยอะกว่านี้ แต่เหมือนตอนนี้เงียบๆ นะ
พอฝนเริ่มหยุดก็เดินกลับที่พัก เอารถไปหาข้าวกิน วันนี้วันเสาร์มีถนนคนเดินด้วยนะ
ของกินเริ่มเยอะกว่าตอนกลางวัน เย็นนี้รองกินข้าวร้านใหม่ รสชาติพอกินได้ สู้ร้านเดิมไม่ได้อ่ะ หน้าตลาดมีไก่ทอดอิสลามอยู่ อีกร้านไม่ได้คลุมผ้าแต่เขียนบอกว่าไก่ทอดอิสลามตัวเล็กๆ แต่ให้แน่ใจซื้อร้านที่คนขายคลุมผ้าดีกว่า กินสบายใจกว่าเนอะ
กินข้าวเสร็จเดินถนนคนเดิน และซื้อขนมหวานกลับมากินที่ห้อง
คืนนี้เจ็บหลังมาก คงเพราะนอนน้อย มาเจออากาศร้อน ยิ่งเจ็บ คืนนี้นอนเร็ว ได้พักผ่อนเต็มที่
ตื่นมาตีห้าครึ่ง ตื่นมาละหมาด อัลฮัมดุลิลลาฮ์...หายเจ็บหลัง และไปมีอากาศเลย ดีใจมากๆ
ห้องข้างๆ เค้าก็เริ่มตื่นกันล่ะ เค้าคงตื่นกันไปใส่บาตร เราก็ไปเดินสะพาญมอญ ไปดูเค้าใส่บาตรเก็บภาพบรรยากาศบนสะพานเนอะ ที่นี่เงียบสงบดี คนยังใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย แต่นักท่องเที่ยวที่มานะสิ เอาความวุ่นวายมาให้เค้า ซื้อกินแล้วยังทิ้งขยะไม่เป็นที่ มักง่ายมากๆ ยังมีภาพขยะให้เห็นอยู่ ไม่ดีเลยคะ
เราก็ไปเก็บภาพสวยๆ มาให้ดู เที่ยวชมธรรมชาติ ที่พระเจ้าทรงสร้าง และทิ่งที่มนุษย์สร้างเพิ่มเต็ม
มาดู มาเที่ยว เราไม่ได้มาเพื่อบูชาเนอะ แถมคลุมผ้า คนที่เค้าเห็นเราคนที่เป็นมุสลิมด้วยกันที่เป็นผู้ชาย ก็มาสลามกับแฟน ตอนแรกก็ไม่ค่อนเห็นอิสลามเลย มีเรานี่แระที่เป็นนักท่องเที่ยวอิสลาม อิอิ
เดินไปถึงสุดสะพานมอญ ลงไปนั่งเรือไปชมวัดใต้น้ำ หรือวัดจมน้ำ คือวัดวังก์วิเวการามเดิมนั้นแระค่ะ เป็นที่อยากมานานแล้ว Unseen Thailand ต้องไปชมซะหน่อย มาแล้วจะได้มาอีกหรือป่าวก็ไม่รู้ ความแปลกของวัดตรงที่มีซากโบราณจมอยู่ใต้น้นั้นแระำ ที่เค้าเล่าขานว่าเป็นเมืองบาดาน จะเห็นได้ในช่วงฤดูร้อน ช่วงน้ำลด นี่แค่กุมพาพันธ์เองนะ น้ำเริ่มน้อยก็เริ่มน้อยละคะ มาก็ได้ช่วงนี้พอดีเลย เหมาเรือลำหนึ่งไปแค่ 2 คน 300 บาท ชิลล์ๆ คนขับเรือก็ขับไม่เร็วมาก แถมมีบรรยายให้ด้วยนะคะ ขึ้นไปถึงวัดเค้ามีเวลาให้เราเดินถ่ายรูป 15 นาทีคะ
กลับมาเก็บภาพที่สะพาน แล้วไปมัสยิดเก็บภาพ พอดีเจออีหม่ามประจำมัสยิดพอดีเลยคะ บอกแฟนเอาเงินไปบริจาคเป็นค่าน้ำค่าไฟให้หน่อย อัลฮัมดุลิลลาฮ์...เราโชคดีนะ มาถึงสุดชายแดน ได้มาเจออิสลามเหมือนกัน มีมัสยิดให้เราได้ละหมาด มีร้านข้าวอิสลามให้เราได้กินข้าวด้วย มีความสุขมากๆ ที่ได้มาเยือนสังขละบุรี อินชาอัลลฮ์...แล้วจะกลับมาเยือนใหม่อีกครั้ง
จบทริป...ทริปส่งท้ายเดือนแห่งรัก คราวหน้าไปเที่ยวไหน จะเอามาเล่าให้ฟังอีกนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาจนจบคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
Post a Comment